Learning
log 6
(ในห้องเรียน)
ประโยคในภาษาอังกฤษมีหลายชนิดพอสมควร
ประโยคแต่ละชนิดล้วนแล้วแต่มีความหมายสำคัญ
เราจำเป็นจะต้องศึกษาประโยคเหล่านั้นอย่างถ่องแท้
หากเรามีความรู้เรื่องประโยคแล้วนั้นเราจะสามารถสื่อสารกับคนต่างชาติได้อย่างง่ายดาย
เนื่องจากปัจจุบันภาษาอังกฤษมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคนในสังคม
เพราะได้มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร หรือการทำธุรกิจ
เมื่อเราได้ศึกษาเกี่ยวกับประโยคในภาษาอังกฤษอย่างลึกซึ้งแล้วนั้นจะพบว่าประโยคบางประโยคมันมีความสลับซับซ้อน
ซึ่งเกิดจากการรวมประโยคสองประโยค เข้าด้วยกัน
จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องเข้าใจและสามารถตีความประโยคนั้นๆให้ได้
สำหรับวิธีการที่จะคัดแยกประโยคให้ได้นั้นต้องศึกษาถึงโครงสร้างและการนำไปใช้อนุประโยคก่อน
เพราะประโยครองเป็นประโยคที่เราจะนำมารวมกับประโยคหลักแล้วได้เป็นประโยคความซ้อน
อนุประโยครองที่เราจะนำรวมกับประโยคหลักนั้นมีหลากหลายรูปแบบ
และหนึ่งในนั้นคือ adjective clause ซึ่งหมายถึงอนุประโยคที่ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ขยายนามหรือแสดงลักษณะของคำนามหรือคำสรรพนาม
โดยปกติแล้ว adjective clause จะใช้ relative
pronoun ในการเชื่อม subordinate clause (ประโยครอง) กับ main
clause (ประโยคหลัก)
จะใช้แทนคนหรือสิ่งของ
และใช้ relative adverb แทนสถานที่ เวลา หรือทำไม สำหรับวิธีการใช้ relative pronoun
และ relative adverb นั้นต่างกัน
แต่เราจะมาศึกษาถึงการใช้ relative pronoun ก่อน
relative pronoun คือการใช้ who
which that เป็นประธานของประโยค adjective clause
เพื่อขยายคำนามของประโยคหลัก เช่น A
man who moved in yesterday is our friend. The girl who is crying was punished
by her mother. เป็นต้น ต่อไปเป็นตัวย่างการใช้
which This is the house which belong to
my sister.
การใช้ who which that
เป็นกรรมของ adjective clause เพื่อขยายคำนามของประโยคหลัก
เราจะใช้เป็น who กับ that แทนคน และใช้ which
กับ
that แทนสิ่งของ เช่น The man who I talked with works for my dad. นอกจากนี้ยังมีการใช้ relative pronoun
“whose” และ “whom” สำหรับ
whose จะใช้แสดงความเป็นเจ้าของ ใช้เพื่อขยายคำนามของประโยคหลัก
เช่น A boy whose bike was bought by my son
is my student.
และ A woman house is next to me is a nurse. เป็นต้น
ส่วน whom จะใช้เมื่อเป็นกรรมของ adjective clause เพื่อขยายคำนามของประโยคหลัก เช่น The man whom I met is my friend’s sister. และ The
man with whom many women had a date with turns out to be a serial killer.
นอกจากการที่เราสามารถนำคำหรือวลีไปทำเป็นอนุประโยคได้แล้วนั้น
เรายังสามารถลดรูปของอนุประโยคให้กลับไปเป็นวลีได้อีกด้วย การลดรูป adjective clause
เมื่อลดรูปแล้วจะกลายเป็นกลุ่มคำนามหรือวลีดังนี้ Appositive
Noun Phrase, Prepositional Phrase, Infinitive Phrase และ Participle phrase ซึ่งอันดับแรกเราจะศึกษาเกี่ยวกับการลดรูป adjective clause
ให้เป็น Appositive Noun Phrase เมื่อ
adjective clause มี who which that ที่ทำหน้าที่เป็นประธานของ adjective clause
สามารถลดรูปได้หากหลัง who which that มี BE ให้ตัด
who which that และ BE ออก
เช่น Prof.
Chakarin, my thesis adviser, will
retire next year. และ His novel, Behind the picture, is very popular. เป็นต้น
การลดรูป
adjective clause เป็น Prepositional
Phrase ทำได้เมื่อ adjective
clause มี who which that
ที่ทำหน้าที่เป็นประธาน และหลังคำเหล่านี้มีคำกริยาและบุพบท
ที่เมื่อถ้าตัดคำกริยาแล้วเหลือแต่คำบุพบทแล้วยังมีความหมายเหมือนเดิม
ให้ตัดคำกริยาออกได้ เช่น The lady who is
dressed in the national costume is a beauty queen. กลายเป็น The lady in the national costume is a beauty queen. และ
The
football player who came from Brazil
received a warm welcome from his fans in Thailand. กลายเป็น
The
football player from Brazil received a warm welcome from his fans in
Thailand.
การลดรูป adjective clause เป็น Infinitive
Phrase ทำได้เมื่อ adjective clause
มี who which that ที่ทำหน้าที่เป็นประธาน และหลังคำเหล่านี้มีกริยาในรูป
BE
+ infinitive with to ให้ตัด
relative
pronoun และ BE ออกเช่น He is the first person who is to be
blamed for the violence yesterday. กลายเป็น He is the first person to
be blamed for the violence yesterday. และ The researcher
did not provide the specific statistics that can be used to test the
hypothesis. กลายเป็น
The researcher did not provide the specific statistics used to test the
hypothesis.
การลดรูป adjective
clause เป็น Participle phrase ซึ่งการลดให้กลายเป็น
Participle phrase
นั้นมี 2
รูปแบบ คือ Present Participle Phrase และ Past
Participle Phrase ซึ่งการลด adjective
clause เป็น Present Participle Phrase
ทำได้เมื่อ adjective clause
มี who
เป็นประธาน และหลัง who มีกริยาแท้
ลดรูปโดยตัด who และเปลี่ยนกริยาแท้หลัง who เป็น present participle (v.ing) เช่น The school students who visited the national museum were
very excited.
สำหรับการลด adjective clause
เป็น Past
Participle Phrase ทำได้เมื่อ adjective clause มี which
และ who เป็นประธานและหลังคำเหล่านี้มีกริยาในรูป
passive form (BE
+ past participle) ลดรูปโดยตัด which หรือ who และ BE ออก เหลือแต่ Past Participle เช่น The money which was lost during the trip was returned to
its own. กลายเป็น The money lost
during the trip was returned to its own. และ His farther,
who was sent by his company to New Zealand, developed lung cancer. กลายเป็น His farther, sent by his company to New Zealand,
developed lung cancer.
ประโยคแต่ละชนิดย่อมมีองค์ประกอบที่แตกต่างกันแต่ถึงอย่างไรก็ตามเราจะต้องศึกษาให้เข้าใจและสามารถนำประโยคเหล่านั้นไปใช้ได้จริง
และสามารถนำประโยคเหล่านั้นไปใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้
เมื่อเราเข้าใจโครงสร้างของประโยคในภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นประโยคที่ทำยาก เขียนยากหรืออ่านยากแต่อย่างใด
หากแต่เราต้องหมั่นฝึกฝนและใช้ภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อให้ได้ประโยคที่สละสลวยและมีใจความสมบูรณ์เฉกเช่นเดียวกับ adjective clause
ที่เราต้องหมั่นฝึกใช้บ่อยๆเพื่อให้เกิดความชำนาญและสามารถนำไปใช้จริงอย่างถูกต้องและสวยงาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น