Learning log 15
(นอกห้องเรียน)
สำหรับการศึกษานอกชั้นเรียนครั้งนี้ก็ยังคงเป็นความรู้ที่ได้รับมาจากการเข้าอบรมในโครงการเทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ
ในครั้งนี้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่21
ซึ่งถือเป็นศตวรรษแห่งเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก
นอกจากเรื่องเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าแล้วนั้น
ยังเป็นยุคที่การเรียนสามารถเข้าถึงทุกคนได้อย่างว่องไวและทั่วถึง
เราสามารถเรียนได้จากหลากหลายทาง แต่มิได้หมายความว่าจะสามารถมาแทนที่ครูได้
ครูก็ยังถือเป็นผู้สอนที่ให้ความรู้แก่เด็กเหมือนเดิม
แต่ครูอาจจะต้องใช้วิธีการสอนแบบบูรณาการเพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้อย่างรอบด้านและเท่าทันกับโลกปัจจุบัน
วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่21นั้นมีวิธีการที่หลากหลายมาก
ครูจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้และใช้วิธีการสอนได้ทุกรูปแบบ
เพื่อที่ว่าครูจะได้เลือกวิธีการสอนได้อย่างเหมาะสมแก่เด็กแต่ละคน
หรือห้องเรียนแต่ละห้องได้ ซึ่งวิธีการสอนสามารถแบ่งออกเป็น 4 แนว แนวการสอนที่1คือวิธีการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นกฎเกณฑ์ของภาษาซึ่งมีทั้งหมด3วิธีสอนด้วยกัน วิธีที่1 คือวิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปล
เป็นวิธีการสอนที่ไม่เน้นการฟังและการพูด แต่เน้นการเรียนไวยากรณ์และการแปล
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถอ่านบทอ่านได้เข้าใจและเห็นคุณค่าของคำประพันธ์ภาษาต่างประเทศ
เน้นการท่องจำ และความถูกต้องในการใช้ภาษา
วิธีที่2 คือวิธีสอนแบบตรง เป็นการสอนเพื่อให้ผู้เรียนได้สื่อสารด้วยภาษาที่เรียนมาและเพื่อให้ประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้นควรให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการที่จะคิดเป็นภาษาที่เรียนด้วย
มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารได้ เริ่มจากการสอนระบบเสียง
ให้ผู้เรียนฝึกเลียนแบบเสียงและแยกเสียงให้ถูกต้อง แล้วจึงให้ผู้เรียนฝึกฟังความหมายในประโยค
เช่น ประโยคคำถาม-คำตอบ บทสนทนาสั้นๆ
วิธีที่3 คือวิธีสอนแบบฟัง-พูด
เป็นการเรียนภาษาที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ภาษาที่เจ้าของภาษาใช้พูดกันในชีวิตประจำวัน
จึงมีการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาด้วยภาษาพูด โดยยังไม่ให้ผู้เรียนเห็นรูปแบบของภาษา
ผู้เรียนจะต้องเลียนแบบเสียงของผู้สอนจนสามารถฟังเข้าใจ
เน้นการท่องจำบทสนทนาแล้วจึงเริ่มฝึกอ่านและเขียน
แนวการสอนแบบถัดมาคือแนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการปฏิสัมพันธ์มีทั้งหมด
7 วิธีสอน วิธีที่1 คือวิธีสอนแบบเงียบ เป็นวิธีที่เน้นความรู้ความเข้าใจ
เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้ผู้เรียนคิดเอง
ผู้สอนจะพูน้อยที่สุดและเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พูด
การแก้ปัญหาเป็นส่วนสำคัญของการเรียนรู้
ผู้สอนเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิด
ความเข้าใจที่จะค้นพบกฎเกณฑ์ทางภาษาด้วยตนเองและจากเพื่อนๆมากกว่าการจดจำ
วิธีสอนที่2 คือวิธีสอนตามแนวธรรมชาติ
เป็นแนวการสอนที่เลียนแบบการรับรู้ภาษาที่หนึ่งของเด็กเล็ก
ซึ่งเป็นการรับรู้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยไม่มีใครสอน เป็นวิธีที่พัฒนาทักษะทางด้านภาษาเพื่อการสื่อสารกับเจ้าของภาษาโดยที่ยังให้ความสำคัญของความถูกต้องในการใช้ไวยากรณ์
โดยใช้วิธีตรวจแก้ไขไปเรื่อยๆ
และระยะยาวผู้เรียนจะสามารถใช้ภาษาในการสื่อสารได้ตามหลักไวยากรณ์
วิธีสอนที่3 คือวิธีสอนแบบชักชวน เป็นวิธีสอนที่ผู้สอนต้องโน้มน้าวให้ผู้เรียนได้ใช้พลังสมองของตนอย่างเต็มที่
โดยขจัดความกลัว ความวิตกกังวล และข้อห้ามต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนภาษา
ควรให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยความสนุกสนาน ผ่อนคลายทางจิต
กิจกรรมทางภาษาที่เน้นการสื่อสาร เน้นสภาพแวดล้อมที่เป็นจริงในการใช้ภาษา
วิธีสอนที่4 วิธีสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง
เป็นวิธีสอนที่มีความเชื่อว่าทุกคนหากได้รับการฝึกฝนบ่อยๆอย่างต่อเนื่องแล้วนั้นจะทำให้เกิดการเก็บสะสมประสบการณ์ต่างๆ
และสามารถระลึกและถ่ายทอดออกมาได้ การจำเกิดจากการฝึกท่องจำหรือแสดงท่าทาง
มุ่งพัฒนาความเข้าใจในการฟัง ในช่วงต้นของการเรียนรู้โดยการแสดงท่าทาง ใช้คำสั่ง
เป็นหลักในการสอน
วิธีสอนที่5 คือการเรียนรู้แบบร่วมมือ
ซึ่งเป็นการเรียนการสอนที่แบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มย่อยๆ
ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมกันเพื่อให้ตนเองและสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในลักษณะประชาธิปไตย
วิธีสอนที่6 คือการเรียนรู้แบบเน้นภาระงาน
เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ใช้ภาระงานเป็นหลัก
โดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนาการเรียนการสอน
โดยภาระงานที่นำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้ภาษาในการปฏิบัติภาระงานนั้นให้สำเร็จ
ต้องวิเคราะห์ จัดประเภท จัดลำดับ และพิจารณาความยากง่ายเพื่อให้เหมาะกับผู้เรียน
วิธีสอนที่7 คือการเรียนรู้จากการทำโครงงาน
โครงงานเป็นวิธีการสอนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ซึ่งเป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
การทำโครงงานต้องเริ่มต้นจากผู้เรียนเป็นผู้คิด ลงมือปฏิบัติ
หาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีผู้สอนคอยแนะนำช่วยเหลือ กระต้น
แนวการสอนถัดมาคือ
แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษามีทั้งหมด 2
วิธี วิธีแรกคือ
แนวการสอนภาษาแบบกำหนดสถานการณ์ เป็นวิธีที่เน้นตัวผู้เรียน
ผู้สอนหรือผู้เรียนเลือกสถานการณ์นั้นมาจัดสอน
ตามวัตถุประสงค์ของผู้เรียนหรือของบทเรียน
วิธีที่2 คือแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร
เป็นการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนรู้ซึ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จัดลำดับการเรียนรู้เป็นขั้นตอนตามกระบวนการใช้ความคิดของผู้เรียน
โดยเริ่มจากการฟังไปสู่การพูด การอ่าน การจับใจความสำคัญ ทำความเข้าใจ จดจำ
แล้วนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้
สำหรับแนวทางสุดท้ายคือ
แนวการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการเนื้อหาและภาษามีวิธีการสอนทั้งหมด2วิธี วิธีที่1 คือการสอนที่เน้นสาระการเรียนรู้
เป็นการสอนภาษาที่นำเนื้อหาวิชาต่างๆมาบูรณาการกับจุดหมายของการสอนภาษา
การคัดเลือกเนื้อหาถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะเนื้อหาที่คัดเลือกมาจะต้องเอื้อต่อการบูรณาการการสอนภาษาทั้ง4ทักษะ
นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์ สามารถตีความ ประมวลข้อมูลของเรื่อง
และพัฒนาการเขียนเชิงวิชาการได้
วิธีที่2 คือการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
เป็นกลวิธีการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ใช้วิธีการตั้งคำถาม และกระบวนการแก้ปัญหา
เป็นตัวนำกระบวนการแสวงหาความรู้และทักษะโดยไม่ยึดติดโครงสร้างของสาขาวิชาต่างๆเข้าด้วยกัน
เป็นการส่งเสริมให้มีการขยายโลกทัศน์และวิสัยทัศน์ให้กว้างขึ้น
ตอบสนองความสามารถทางพหุปัญญาของผู้เรียน
และตอบสนองต่อความสามารถที่จะแสดงออกทางอารมณ์
นอกจากนี้ผู้เรียนยังสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนเข้ากับชีวิตจริงและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองได้จนเกิดการเรียนรู้ที่มีความหมายขึ้น
วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่21มีหลากหลายวิธีมาก
ซึ่งแต่ละวิธีนั้นย่อมมีความแตกต่างกัน
ผู้สอนจะต้องมีความรู้และมีทักษะในการใช้วิธีสอนแต่ละวิธีนั้นซึ่งผู้สอนจะต้องมีการคัดเลือกวิธีที่จะสอนผู้เรียนให้ความเหมาะสมกับความสามารถของผู้เรียนหรือความแตกต่างของผู้เรียนแต่ละห้องได้
วิธีการสอนทุกวิธีนั้นย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป
ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้สอนที่จะต้องสรรหาวิธีที่จะสอนลูกศิษย์ของตนให้บรรลุตามเป้าหมายที่ได้วางไว้
และประสบความสำเร็จในการเรียนภาษา
การเข้าอบรมในครั้งนี้ทำให้ดิฉันทราบถึงวิธีการสอนแต่ละวิธี
และได้รู้ถึงความแตกต่างของระหว่างข้อดีและข้อเสียของวิธีการสอนแต่ละชนิด
วิธีการสอนที่ดีที่สุดคือการสอนแบบบูรณาการวิธีการสอนเข้าด้วยกัน
เนื่องจากเด็กแต่ละคนย่อมมีพื้นฐานความรู้หรือมีทักษะมนการเรียนรู้ที่แตกต่างกันออกไป
ผู้สอนจึงจำเป็นที่จะต้องสอนเด็กแบบบูรณาการ เพื่อให้เด็กทุกคนสามารถใช้ความรู้
ความสามารถที่ตนเองมีในการเรียนภาษา และก่อให้เกิดความสำเร็จแก่ลูกศิษย์ทุกคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น